9384/2550 จำเลยที่ 1 ทำสัญญาให้จำเลยที่ 2 ปลูกสร้างอาคารพาณิชย์ต่างๆบนที่ดินของจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 เป็นคนเก็บเงินค่าก่อสร้างจากผู้จองอาคารพาณิชย์ โดยจำเลยที่ 1 จะจดทะเบียนการเช่าให้แก่ผู้จองมีกำหนดคนละ 30 ปี จำเลยที่ 1 เป็นผู้กำหนดที่ดินที่จะปลูกสร้าง จำเลยที่ 1 เท่านั้นมีสิทธิยื่นคำขอก่อสร้างต่อทางราชการ จำเลยที่ 2 ยังได้โฆษณาชักชวนบุคคลภายนอกเข้ามาจองอาคารพาณิชย์เพื่อการทำธุรกิจค้าขายอันเป็นโครงการที่จำเลยที่ 1 กับที่ 2 วางแผนร่วมกันแบ่งปันผลประโยชน์และผลกำไรกัน โดยเมื่อสร้างเสร็จกรรมสิทธิ์ในตึกแถวให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 1 ไม่ได้ออกเงินค่าวัสดุก่อสร้างแต่อย่างใด จำเลยที่ 2 ก็ได้รับประโยชน์ค่าตอบแทนจากการปลูกสร้างด้วย ตามลักษณะสัญญาพฤติการณ์ของจำเลยที่ 1 ที่ 2 และวัตถุประสงค์ในการทำสัญญาจึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนระหว่างจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ทำขึ้นเพื่อประโยชน์แก่บุคคลภายนอก และสัญญามัดจำปลูกสร้าง สัญญาปลูกสร้างอาคารระหว่างจำเลยทั้งสองยังเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนที่จำเลยทั้งสองร่วมลงทุนแบ่งผลกำไรกัน
จำเลยที่ 2 ในฐานะหุ้นส่วนได้โฆษณาชี้ชวนให้บุคคลทั่วไปและโจทก์ให้เข้าทำสัญญากับจำเลยที่ 2 โดยมีเหตุจูงใจว่าจำเลยทั้งสองจะร่วมกันทำศูนย์กลางการค้าขาย แม้จำเลยที่ 1 จะไม่ได้ร่วมกันดำเนินการในขั้นตอนต่างๆด้วยกันก็ย่อมผูกพันจำเลยที่ 1 ด้วย และจำเลยที่ 1 จะทำสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาดังกล่าวในภายหลังว่าจำเลยที่ 2 ไม่ต้องสร้างอาคารมาต่อสู้โจทก์ไม่ได้เพราะเป็นข้อตกลงระหว่างจำเลยด้วยกันเอง โจทก์ไม่ได้ยินยอมรู้เห็นด้วย การที่จำเลยทั้งสองไม่สร้างอาคารตามสัญญาที่ทำกับโจทก์ ทั้งที่โจทก์ชำระค่าก่อสร้างครบถ้วนแล้ว จำเลยทั้งสองจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาและจำเลยทั้งสองต้องคืนเงินค่าก่อสร้างพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
http://deka-by-mrt.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น