11070/2553 ในคืนเกิดเหตุจำเลยที่ 1
เข้าใจว่าผู้เสียหายไปจีบ
ก. คนรักของจำเลยที่ 1 เป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 ไม่พอใจผู้เสียหาย จึงให้จำเลยที่ 2 ขับรถจักรยานยนต์พาจำเลยที่ 1 และที่ 3 ตามไปทำร้ายผู้เสียหายในที่เกิดเหตุ แต่ขณะที่จำเลยที่ 2 กระชากเอาสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทองคำจากคอของผู้เสียหาย
ก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 และที่ 3 กระทำการใดอันจะส่อแสดงให้เห็นว่ามีลักษณะของการร่วมมือและร่วมใจกับจำเลยที่
2 ในการประทุษร้ายต่อทรัพย์ของผู้เสียหาย
ลำพังแต่เพียงที่จำเลยทั้งสามร่วมกันเดินทางไปทำร้ายผู้เสียหายในที่เกิดเหตุ
และหลังเกิดเหตุจำเลยทั้งสามหลบหนีออกไปจากที่เกิดเหตุด้วยกันนั้น
ยังไม่อาจชี้ให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าในขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 และที่ 3 มีเจตนาร่วมกับจำเลยที่ 2ในการกระชากสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทองคำจากคอของผู้เสียหาย
ลักษณะการกระทำของจำเลยทั้งสามดังกล่าวอาศัยเจตนาที่แตกต่างแยกจากกันได้ว่าจำเลยทั้งสามมีเจตนาร่วมกันทำร้ายผู้เสียหาย โดยจำเลยที่ 2 แต่เพียงลำพังเท่านั้นที่มีเจตนาประทุษร้ายต่อทรัพย์ของผู้เสียหาย พยานหลักฐานโจทก์ยังไม่พอรับฟังได้ว่า
จำเลยทั้งสามร่วมกันปล้นทรัพย์ของผู้เสียหายโดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ(ม.340ตรี)
บล็อกนี้ทำขึ้นเพื่อรวบรวมคำพิพากษาของศาลฎีกาย้อนหลังเป็นเวลาประมาณ10ปีจนถึงปัจจุบัน โดยจัดเป็นหมวดหมู่เป็นรายวิชาเพื่อให้ง่ายแก่การค้นคว้า อีกทั้งยังรวบรวมบทความที่น่าสนใจไว้อีกด้วย
วิชา พระธรรมนูญศาลยุติธรรม , พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 ,พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 สามารถค้นหาคำพิพากษาฎีกาภายใน 1o ปี หลังสุดได้แล้วครับ จะเร่งเพิ่มวิชาต่อไปให้เสร็จตามมาเรื่อยๆครับ
วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น