คำวินิจฉัยของประธานศาลฎีกาที่ ยช. 22/2551 การที่โจทก์ซึ่งเคยเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยฟ้องขอให้ห้ามจำเลยขัดขวางกีดกันโจทก์ในการเข้ากรีดยางในสวนยางพิพาทและให้แบ่งรายได้จากการกรีดยางพาราในสวนยางพาราพิพาทให้แก่โจทก์
โดยอ้างว่าโจทก์เป็นผู้ปลูกยางพาราและเป็นผู้ดูแลสวนยางพิพาทในระหว่างที่จำเลยไปทำงานที่ดินแดนไต้หวัน
จำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยและพี่ชายเป็นผู้ปลูกยางพาราในสวนยางพิพาทซึ่งเป็นที่ดินที่จำเลยได้รับมาจากบิดา
เมื่อตกลงหย่ากันโจทก์ตกลงยกสวนยางพิพาทให้จำเลยเพื่อให้จำเลยมีรายได้ใช้เลี้ยงดูบุตรทั้งสอง แต่ในระหว่างจำเลยไปทำงานที่ดินแดนไต้หวันจำเลยยินยอมให้โจทก์เข้ากรีดยางในสวนยางพิพาทเพื่อนำรายได้มาเลี้ยงดูบุตรทั้งสองแทนจำเลยเท่านั้น
เมื่อจำเลยกลับมาแล้วโจทก์จึงไม่มีสิทธิใด ๆ
ในสวนยางพิพาทโดยอ้างว่าเป็นไปตามข้อตกลงในการหย่าและข้อตกลงต่อเนื่องจากข้อตกลงในการหย่าหลังจากนั้น จึงเป็นกรณีมีข้อโต้แย้งสิทธิและหน้าที่ระหว่างโจทก์และจำเลยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยาในทางทรัพย์สินตาม
ป.พ.พ. บรรพ 5 มาตรา 1532 ถึงมาตรา
1535 อันเป็นบทบัญญัติใน ป.พ.พ.
บรรพ 5 ว่าด้วยครอบครัวตาม พ.ร.บ.
จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวฯ มาตรา 11 (3)
ซึ่งอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลเยาวชนและครอบครัว
บล็อกนี้ทำขึ้นเพื่อรวบรวมคำพิพากษาของศาลฎีกาย้อนหลังเป็นเวลาประมาณ10ปีจนถึงปัจจุบัน โดยจัดเป็นหมวดหมู่เป็นรายวิชาเพื่อให้ง่ายแก่การค้นคว้า อีกทั้งยังรวบรวมบทความที่น่าสนใจไว้อีกด้วย
วิชา พระธรรมนูญศาลยุติธรรม , พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 ,พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 สามารถค้นหาคำพิพากษาฎีกาภายใน 1o ปี หลังสุดได้แล้วครับ จะเร่งเพิ่มวิชาต่อไปให้เสร็จตามมาเรื่อยๆครับ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น