896/2545 หลังจากที่จำเลยกับ จ. ร่วมกันชิงเงินสดของผู้เสียหายที่ 1 ไปจากผู้เสียหายที่ 2 แล้ว จ.
ขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่จำเลยขับพากันหลบหนีไป ผู้เสียหายที่ 3 ขับรถยนต์กระบะติดตามไปห่างประมาณ 100 เมตร จ. ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายที่ 3 ไป 2 นัดโดยเจตนาฆ่า แต่กระสุนปืนไม่ถูกผู้ใด ดังนี้
เมื่อจำเลยกับ จ. มีเจตนาที่จะชิงทรัพย์เท่านั้น แม้จำเลยจะทราบว่า จ.
มีอาวุธปืนติดตัวไปด้วย แต่จำเลยก็ไม่มีอาวุธปืนติดตัวไปต่างหาก ขณะที่จ.
ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายที่ 3 จำเลยกำลังขับรถจักรยานยนต์อยู่
ไม่มีโอกาสที่จะรู้เห็นถึงการกระทำของ จ. ทั้งจำเลยไม่ได้พูดหรือกระทำการใด
ๆ อันอาจถือได้ว่าเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุน จ. ในการพยายามฆ่าผู้เสียหายที่ 3
การที่ จ.
ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายที่ 3 จึงเป็นการกระทำของ จ.
ตามลำพังอันเป็นการตัดสินใจของ จ. โดยฉับพลันในขณะนั้นเอง
ถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมกับ จ. ในการพยายามฆ่าผู้เสียหายที่ 3 (ม.83)
บล็อกนี้ทำขึ้นเพื่อรวบรวมคำพิพากษาของศาลฎีกาย้อนหลังเป็นเวลาประมาณ10ปีจนถึงปัจจุบัน โดยจัดเป็นหมวดหมู่เป็นรายวิชาเพื่อให้ง่ายแก่การค้นคว้า อีกทั้งยังรวบรวมบทความที่น่าสนใจไว้อีกด้วย
วิชา พระธรรมนูญศาลยุติธรรม , พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 ,พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 สามารถค้นหาคำพิพากษาฎีกาภายใน 1o ปี หลังสุดได้แล้วครับ จะเร่งเพิ่มวิชาต่อไปให้เสร็จตามมาเรื่อยๆครับ
วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2556
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น