วิชา พระธรรมนูญศาลยุติธรรม , พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 ,พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 สามารถค้นหาคำพิพากษาฎีกาภายใน 1o ปี หลังสุดได้แล้วครับ จะเร่งเพิ่มวิชาต่อไปให้เสร็จตามมาเรื่อยๆครับ

จำหน่ายเอกสารรวมคำพิพากษาฎีกา 10 ปี ล่าสุด แยกเป็นรายวิชา

จำหน่ายเอกสารรวมคำพิพากษาฎีกา 10 ปี ล่าสุด แยกเป็นรายวิชา
www.lawbooks-by-mrt.blogspot.com

วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555

คำพิพากษาฎีกาที่13464/2553


13464/2553       จำเลยขอเงินผู้เสียหายไปซื้อสุรา เมื่อผู้เสียหายไม่ให้ จำเลยจึงดึงกระเป๋าเงินไปจากผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายก็แย่งคืนมาได้ โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยใช้ จ้าง วาน ยุยงส่งเสริมให้ ด. ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายแต่อย่างใด  การที่  ด. ทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย  เกิดขึ้นจากการกระทำตามลำพังของ ด. เอง ไม่เกี่ยวข้องกับจำเลย  และมิใช่เป็นการทำร้ายร่างกายเพื่อที่จะเอาทรัพย์จากผู้เสียหาย  แต่เชื่อว่าเป็นผลมาจากที่ผู้เสียหายด่าว่าจำเลยมากกว่า  และก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยกับ ด. มีพฤติการณ์ที่จะร่วมกันชิงทรัพย์จากผู้เสียหาย เนื่องจากจำเลยกับ  ด. ไม่ทราบมาก่อนว่าผู้เสียหายจะเดินผ่านมาบริเวณนี้ แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดทันทีทันควัน จำเลยกับ ด. จึงมิได้มีเจตนาร่วมกันจะมาชิงทรัพย์ของผู้เสียหายแต่อย่างใด
                      ในส่วนของจำเลย ลำพังเพียงแต่จำเลยขอเงินจากผู้เสียหายมาซื้อสุรา จำเลยยังไม่มีความผิดอาญาใด ๆ แต่หลังจากที่ผู้เสียหายไม่ให้เงิน จำเลยพยายามแย่งเอาเงินจากผู้เสียหายไปซึ่งหน้า  การกระทำของจำเลยในตอนหลังนี้จึงเป็นความผิดฐานพยายามวิ่งราวทรัพย์  แต่โจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาปล้นทรัพย์โดยไม่ได้บรรยายฟ้องว่าฉกฉวยซึ่งหน้า  แสดงว่าไม่ประสงค์ให้ลงโทษฐานวิ่งราวทรัพย์  แต่ความผิดฐานนี้รวมความผิดฐานลักทรัพย์  ซึ่งเป็นความผิดที่รวมอยู่ในความผิดฐานปล้นทรัพย์ที่โจทก์ฟ้องมาด้วยแล้ว  ศาลสามารถลงโทษจำเลยฐานพยายามลักทรัพย์ได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคท้าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น