13464/2553 จำเลยขอเงินผู้เสียหายไปซื้อสุรา เมื่อผู้เสียหายไม่ให้
จำเลยจึงดึงกระเป๋าเงินไปจากผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายก็แย่งคืนมาได้ โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย
ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยใช้ จ้าง วาน ยุยงส่งเสริมให้ ด.
ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายแต่อย่างใด
การที่ ด. ทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย เกิดขึ้นจากการกระทำตามลำพังของ ด. เอง
ไม่เกี่ยวข้องกับจำเลย
และมิใช่เป็นการทำร้ายร่างกายเพื่อที่จะเอาทรัพย์จากผู้เสียหาย
แต่เชื่อว่าเป็นผลมาจากที่ผู้เสียหายด่าว่าจำเลยมากกว่า และก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยกับ ด.
มีพฤติการณ์ที่จะร่วมกันชิงทรัพย์จากผู้เสียหาย เนื่องจากจำเลยกับ ด. ไม่ทราบมาก่อนว่าผู้เสียหายจะเดินผ่านมาบริเวณนี้
แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดทันทีทันควัน จำเลยกับ ด.
จึงมิได้มีเจตนาร่วมกันจะมาชิงทรัพย์ของผู้เสียหายแต่อย่างใด
ในส่วนของจำเลย
ลำพังเพียงแต่จำเลยขอเงินจากผู้เสียหายมาซื้อสุรา จำเลยยังไม่มีความผิดอาญาใด ๆ
แต่หลังจากที่ผู้เสียหายไม่ให้เงิน จำเลยพยายามแย่งเอาเงินจากผู้เสียหายไปซึ่งหน้า
การกระทำของจำเลยในตอนหลังนี้จึงเป็นความผิดฐานพยายามวิ่งราวทรัพย์
แต่โจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาปล้นทรัพย์โดยไม่ได้บรรยายฟ้องว่าฉกฉวยซึ่งหน้า
แสดงว่าไม่ประสงค์ให้ลงโทษฐานวิ่งราวทรัพย์ แต่ความผิดฐานนี้รวมความผิดฐานลักทรัพย์ ซึ่งเป็นความผิดที่รวมอยู่ในความผิดฐานปล้นทรัพย์ที่โจทก์ฟ้องมาด้วยแล้ว ศาลสามารถลงโทษจำเลยฐานพยายามลักทรัพย์ได้ตาม
ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น