6724/2544
ขณะที่ผู้เสียหายทั้งสามกำลังเดินไปตามทางเท้า จำเลยขับรถจักรยานยนต์เข้ามาจอดเทีย[ใกล้ ๆ ผู้เสียหายทั้งสาม และแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจขอตรวจบัตรประจำตัวและขอค้นตัวเพื่อตรวจหายาเสพติด
แล้วพูดจาขู่บังคับให้ส่งมอบเงินและทรัพย์สินมีค่าแก่ตน
หากขัดขืนจะยิงให้ตายพร้อมกับทำท่าจะล้วงเอาอาวุธออกมา ผู้เสียหายทั้งสามเกิดความกลัว ผู้เสียหายที่ 2 และที่ 3 จึงส่งกระเป๋าเงินให้ จำเลยล้วงหยิบเอาเงินสดในกระเป๋าไป
ส่วนผู้เสียหายที่ 1 ถอดนาฬิกาข้อมือให้จำเลยไป
การกระทำของจำเลยถือว่าเป็นการขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหายทั้งสามตาม
ป.อ. มาตรา 339 วรรคหนึ่งแล้ว จำเลยจึงมีความผิดฐานชิงทรัพย์
ทั้งนี้ โดยไม่ต้องคำนึงว่าจำเลยจะเป็นผู้ล้วงหยิบเอาทรัพย์นั้นเองหรือผู้เสียหายเป็นผู้หยิบส่งให้ไป
และเมื่อจำเลยได้ทรัพย์แล้ว
จำเลยได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปก็เป็นการใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมตาม
ป.อ. มาตรา 340 ตรี แล้ว
บล็อกนี้ทำขึ้นเพื่อรวบรวมคำพิพากษาของศาลฎีกาย้อนหลังเป็นเวลาประมาณ10ปีจนถึงปัจจุบัน โดยจัดเป็นหมวดหมู่เป็นรายวิชาเพื่อให้ง่ายแก่การค้นคว้า อีกทั้งยังรวบรวมบทความที่น่าสนใจไว้อีกด้วย
วิชา พระธรรมนูญศาลยุติธรรม , พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 ,พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 สามารถค้นหาคำพิพากษาฎีกาภายใน 1o ปี หลังสุดได้แล้วครับ จะเร่งเพิ่มวิชาต่อไปให้เสร็จตามมาเรื่อยๆครับ
วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น