วิชา พระธรรมนูญศาลยุติธรรม , พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 ,พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 สามารถค้นหาคำพิพากษาฎีกาภายใน 1o ปี หลังสุดได้แล้วครับ จะเร่งเพิ่มวิชาต่อไปให้เสร็จตามมาเรื่อยๆครับ

จำหน่ายเอกสารรวมคำพิพากษาฎีกา 10 ปี ล่าสุด แยกเป็นรายวิชา

จำหน่ายเอกสารรวมคำพิพากษาฎีกา 10 ปี ล่าสุด แยกเป็นรายวิชา
www.lawbooks-by-mrt.blogspot.com

วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555

คำพิพากษาฎีกาที่7322/2544


7322/2544   ก่อนเกิดเหตุจำเลยและผู้เสียหายทะเลาะโต้เถียงกันที่บ้านผู้เสียหายแล้วกลับไป  ต่อมาจำเลยมาที่บ้านผู้เสียหายอีกครั้งพร้อมด้วยอาวุธปืน และได้ยิงผู้เสียหายด้านหลังขณะที่ผู้เสียหายหันหลังให้จำเลย ในชั้นพิจารณาจำเลยอ้างว่าไม่มีเจตนาฆ่าผู้เสียหายเพียงมีเจตนาว่าจะยิงที่ขาผู้เสียหายแต่บุตรสาวผู้เสียหายกัดที่ข้อศอกจำเลย ทำให้ปากกระบอกปืนยกขึ้นสูงกระสุนปืนจึงถูกบริเวณลำตัวผู้เสียหาย แต่ตามบันทึกคำให้การในชั้นสอบสวนของจำเลยไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ให้การเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทำให้ข้ออ้างของจำเลยที่ว่าเจตนาหรือตั้งใจจะยิงที่ขาผู้เสียหายไม่มีน้ำหนักรับฟัง และตามทางนำสืบของโจทก์และจำเลยก็ไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้หยิบหรือใช้อาวุธปืนจะยิงจำเลยก่อน กรณีจึงไม่มีภยันตรายที่จะก่อให้เกิดแก่จำเลยที่จะต้องป้องกันตัว ทั้งจำเลยรับมาในฎีกาด้วยว่าเหตุที่มีการยิงเนื่องมาจากการท้ายิงกันระหว่างผู้เสียหายกับจำเลย กรณีจึงมีลักษณะเป็นการสมัครใจที่จะต่อสู้กันจึงไม่อาจอ้างเป็นเหตุการป้องกันตัวตามกฎหมายได้ด้วย การที่จำเลยใช้อาวุธปืนลูกซองซึ่งเป็นอาวุธปืนที่มีประสิทธิภาพที่จะใช้ยิงทำให้ถึงแก่ความตายได้ถ้าถูกอวัยวะสำคัญยิงถูกผู้เสียหายบริเวณสะโพกด้านหลังอันเป็นอวัยวะที่อยู่ใกล้กับบั้นเอวและกระดูกสันหลังซึ่งมีอวัยวะสำคัญอยู่ภายใน เป็นกรณีที่จำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าผู้เสียหายจะได้รับอันตรายถึงแก่ความตายได้ ตามพฤติการณ์การกระทำของจำเลยจึงบ่งชี้ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย(ม.288)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น