7322/2544
ก่อนเกิดเหตุจำเลยและผู้เสียหายทะเลาะโต้เถียงกันที่บ้านผู้เสียหายแล้วกลับไป
ต่อมาจำเลยมาที่บ้านผู้เสียหายอีกครั้งพร้อมด้วยอาวุธปืน
และได้ยิงผู้เสียหายด้านหลังขณะที่ผู้เสียหายหันหลังให้จำเลย
ในชั้นพิจารณาจำเลยอ้างว่าไม่มีเจตนาฆ่าผู้เสียหายเพียงมีเจตนาว่าจะยิงที่ขาผู้เสียหายแต่บุตรสาวผู้เสียหายกัดที่ข้อศอกจำเลย
ทำให้ปากกระบอกปืนยกขึ้นสูงกระสุนปืนจึงถูกบริเวณลำตัวผู้เสียหาย
แต่ตามบันทึกคำให้การในชั้นสอบสวนของจำเลยไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ให้การเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
ทำให้ข้ออ้างของจำเลยที่ว่าเจตนาหรือตั้งใจจะยิงที่ขาผู้เสียหายไม่มีน้ำหนักรับฟัง
และตามทางนำสืบของโจทก์และจำเลยก็ไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้หยิบหรือใช้อาวุธปืนจะยิงจำเลยก่อน
กรณีจึงไม่มีภยันตรายที่จะก่อให้เกิดแก่จำเลยที่จะต้องป้องกันตัว
ทั้งจำเลยรับมาในฎีกาด้วยว่าเหตุที่มีการยิงเนื่องมาจากการท้ายิงกันระหว่างผู้เสียหายกับจำเลย
กรณีจึงมีลักษณะเป็นการสมัครใจที่จะต่อสู้กันจึงไม่อาจอ้างเป็นเหตุการป้องกันตัวตามกฎหมายได้ด้วย
การที่จำเลยใช้อาวุธปืนลูกซองซึ่งเป็นอาวุธปืนที่มีประสิทธิภาพที่จะใช้ยิงทำให้ถึงแก่ความตายได้ถ้าถูกอวัยวะสำคัญยิงถูกผู้เสียหายบริเวณสะโพกด้านหลังอันเป็นอวัยวะที่อยู่ใกล้กับบั้นเอวและกระดูกสันหลังซึ่งมีอวัยวะสำคัญอยู่ภายใน
เป็นกรณีที่จำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าผู้เสียหายจะได้รับอันตรายถึงแก่ความตายได้
ตามพฤติการณ์การกระทำของจำเลยจึงบ่งชี้ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย(ม.288)
บล็อกนี้ทำขึ้นเพื่อรวบรวมคำพิพากษาของศาลฎีกาย้อนหลังเป็นเวลาประมาณ10ปีจนถึงปัจจุบัน โดยจัดเป็นหมวดหมู่เป็นรายวิชาเพื่อให้ง่ายแก่การค้นคว้า อีกทั้งยังรวบรวมบทความที่น่าสนใจไว้อีกด้วย
วิชา พระธรรมนูญศาลยุติธรรม , พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 ,พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 สามารถค้นหาคำพิพากษาฎีกาภายใน 1o ปี หลังสุดได้แล้วครับ จะเร่งเพิ่มวิชาต่อไปให้เสร็จตามมาเรื่อยๆครับ
วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น