ยช.10/2545 การที่โจทก์ที่ 1 ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของ ท.
ซึ่งเคยเป็นสามีโดยชอบด้วยกฎหมายขอแบ่งที่ดินพิพาท อ้างว่าเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์ที่ 1 และ ท.
จำเลยให้การต่อสู้ว่า ที่ดินพิพาทเป็นสินส่วนตัวของ ท. จึงเป็นคดีที่โจทก์ที่ 1
และจำเลยพิพาทกันในเรื่องทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาซึ่งต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 1470 ถึง 1474
จึงเป็นคดีครอบครัวตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว
พ.ศ. 2534 มาตรา 11(3)
ส่วนที่โจทก์ที่ 2 และที่
3 ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของ ท. ขอแบ่งที่ดินพิพาทในฐานะ ทายาทโดยธรรม
แม้จะมิใช่คดีครอบครัว แต่เป็นการขอแบ่งที่ดินพิพาทแปลงเดียวกัน และยื่นฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของ ท.
เช่นกัน ถือได้ว่ามูลความแห่งคดีเกี่ยวข้องกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา 5
พระราบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.
2534 มาตรา 6 ดังนั้น
โจทก์จึงชอบที่จะเสนอคำฟ้องส่วนนี้ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวได้ด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น