6020/2549 ผู้ตายอยู่กินฉันสามีภริยากับผู้ร้องจนมีบุตรด้วยกันคือ
เด็กชาย จ. และผู้ตายให้ความอุปการะเลี้ยงดูเด็กชาย จ. กับได้แสดงต่อมารดา
ญาติพี่น้องและบุตรของผู้ตายรวมทั้งบุคคลอื่นว่าเด็กชาย จ.
เป็นบุตรของตนอีกคนหนึ่ง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวของผู้ตายเพียงพอให้ถือว่า
เป็นกรณีมีพฤติการณ์ที่รู้กันทั่วไปตลอดมาว่าเด็กชาย จ.
เป็นบุตรผู้ตายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1555 (7) แล้ว
ผู้ร้องมีสิทธิฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายได้ตามบทกฎหมายดังกล่าว
แต่เมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายไปเสียก่อน ผู้ร้องย่อมมีสิทธิร้องเป็นคดีนี้
ผู้อำนวยการสถานพินิจรายงานและเสนอความเห็นมายังศาลชั้นต้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว
พ.ศ. 2534 มาตรา 117 วรรคสอง
เมื่อศาลชั้นต้นได้แจ้งความเห็นของผู้อำนวยการสถานพินิจให้ผู้คัดค้านทราบแต่ไม่ได้แถลงคัดค้านและตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว
พ.ศ. 2534
มาตรา 118 บัญญัติให้ศาลชั้นต้นฟังความเห็นของผู้อำนวยการสถานพินิจก่อนที่จะมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง
ทั้งผู้คัดค้านเองก็ได้นำสืบพยานหักล้างข้อเท็จจริงตามรายงานดังกล่าวแล้วด้วย ศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงมีอำนาจหยิบยกข้อเท็จจริงดังกล่าวมาวินิจฉัยได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น